๑๑. ประวัติพระอมรเมธาจารย์ (เกษ)

 ประวัติพระอมรเมธาจารย์
00012

ประวัติพระอมรเมธาจารย์
พระอมรเมธาจารย์ มีนามเดิมว่า เกษ เป็นชาวเมืองอ่างทอง เกิดเมื่อปีพระ
พุทธศักราช ๒๓๔๒ ในรัชกาลที่ ๑ ประมาณปีพระพุทธศักราช ๒๓๕๖ ในรัชกาที่ ๑
ท่านอายุได้ ๑๔ ปี บิดามารดา นำท่านมาฝากบรรพชาเป็นสามเณร ในสำนักพระญาณวิ
สุทธิ (ชิต) เล่าเรียนอักขรสมัย และศึกษาวิปัสสนาธุร
ประมาณปีพระพุทธศักราช ๒๓๖๒ (นับเดือนไทย) ได้บรรพชาอุปสมบท
ณ.พัทธสีมา วัดราชสิทธาราม สมเด็จพระญาณสังวร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระพรหมมุนี
(ชิต) ครั้งเป็นพระญาณวิสุทธิ์เถร หรือท่านเจ้าคุณหอไตร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระ
วินัยรักขิต (ฮั่น) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังท่านอุปสมบทแล้วไม่นาน จึงเกิด
อหิวาตกโรค ห่าลงเมืองในรัชกาลที่ ๒
หลังจากนั้น ๔ เดือนคือ ถึงเดือนอ้าย ขึ้น๒ ค่ำ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๑๘๒
(๒๓๖๓)สมเด็จพระญาณสังวร ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นที่ สมเด็จพระสังฆราช
ท่านอุปสมบทแล้ว ได้ศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ กับพระพรหมมุนี
(ชิต) ครั้งเป็นพระญาณวิสุทธิเถร และพระครูวินัยธรรมกันด้วย
ศึกษาพระปริยัติบาลีคัมภีร์มูลกัจจายน์ กับพระวินัยรักขิต (ฮั่น) และพระเทพโมลี
(กลิ่น) ออกพรรษาแล้วได้ออกสัญจรจาริกไปตามสถานที่ต่างๆ กับพระสงฆ์วัดราช
สิทธาราม เป็นประจำทุกปี
ประมาณปีพระพุทธศักราช ๒๓๙๒ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระปลัด ของพระอมร
เมธาจารย์ (ทัด) และเป็นพระอาจารย์บอกหนังสือบาลีมูลกัจจายน์ และเป็นพระอาจารย์
ผู้ช่วยบอกพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ของพระครูวินัยธรรมกันด้วย ต่อมาสอบได้
เป็นเปรียญ ๓ ประโยค
ปีพระพุทธศักราช ๒๔๐๓ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูศีลสมาจารย์ พระ
คณาจารย์เอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ แทนที่พระครูศีลสมาจารย์ (เมฆ)ที่ได้รับพระราชทาน
เลื่อนเป็นพระราชาคณะ
ปีพระพุทธศักราช ๒๔๐๗ ได้รับพระราชทานเป็นพระราชาคณะที่ พระอมร
เมธาจารย์ ทำหน้าที่บอกหนังสือ และบอกพระกรรมฐานด้วย
ปีพระพุทธศักราช ๒๔๒๙ เป็นรักษาการ และเป็นเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม
การศึกษาสมัยท่านเป็นเจ้าอาวาส ด้านวิปัสสนาธุระ พระสังวรานุวงศ์เถร์ (เอี่ยม) ครั้ง
เป็น พระครูสังวรสมาธิวัตร เป็นพระอาจารย์ใหญ่ มีพระปลัดชุ่ม ๑ เป็นพระอาจารย์
ผู้ช่วย พระอมรเมธาจารย์ (เกษ) เป็นเจ้าอาวาสอยู่ประมาณ ๓ เดือน ก็ถึงแก่มรณะภาพ
ลงด้วยโรคชรา เมื่อสิริรวมอายุได้ ๘๗ ปี ขณะเมื่อพระอมรเมธาจารย์ (เกษ) มรณะภาพ
นั้น วัดราชสิทธาราม ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ อดีตเจ้าอาวาสถึง ๒ องค์แล้ว เมื่อมาสิ้นบุญ
พระอมรเมธาจารย์ (เกษ) ที่วัดราชสิทธาราม จึงมีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพ อดีตเจ้าอาวาส
ถึง ๓ องค์ ต่อมาจึงได้ทำการพระราชทานเพลิงศพพร้อมกันทั้ง ๓ องค์ในเวลานั้น